| กิจกรรมวันต่อต้านฯในพื้นที่ ปปส.กทม |
| กิจกรรมวันต่อต้านฯในพื้นที่ ปปส.ภาค 1อยุธยา / นนทบุรี
|
| กิจกรรมวันต่อต้านฯในพื้นที่ ปปส.ภาค 2จันทบุรี / ชลบุรี / ตราด
|
| กิจกรรมวันต่อต้านฯในพื้นที่ ปปส.ภาค 3นครราชสีมา / ชัยภูมิ/ บุรีรัมย์ / สุรินทร์ / ยโสธร / ศรีสะเกษ / อุบลราชธานี / อำนาจเจริญ
|
| กิจกรรมวันต่อต้านฯในพื้นที่ ปปส.ภาค 4นครพนม / บึงกาฬ / มหาสารคาม / ร้อยเอ็ด / เลย / หนองคาย / หนองบัวลำภู / อุดรธานี
|
| กิจกรรมวันต่อต้านฯในพื้นที่ ปปส.ภาค 5เชียงใหม่ / เชียงราย / น่าน / ลำปาง / พะเยา / ลำพูน / แม่ฮ่องสอน
|
| กิจกรรมวันต่อต้านฯในพื้นที่ ปปส.ภาค 6พิษณุโลก / กำแพงเพชร / นครสวรรค์
|
| สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 6 จัดโครงการสัมมนาการรณรงค์ประชาสัมพันธ์และประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กร เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด ประจำปี 2554 |
| กิจกรรมวันต่อต้านฯในพื้นที่ ปปส.ภาค 7
เพชรบุรี / นครปฐม / สมุทรสาคร / สุพรรณบุรี / ประจวบคีรีขันธ์ / สมุทรสงคราม / กาญจนบุรี / ราชบุรี |
| กิจกรรมวันต่อต้านฯในพื้นที่ ปปส.ภาค 8สุราษฎร์ธานี / กระบี่ / ระนอง / ชุมพร / นครศรีธรรมราช / ภูเก็ต
|
| กิจกรรมวันต่อต้านฯในพื้นที่ ปปส.ภาค 9นต่อต้านยาเสพติด
ทุกวันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี
ความเป็นมาวันต่อต้านยาเสพติด
ประเทศไทยได้เผชิญกับปัญหา ยาเสพติด มา เป็นเวลาช้านาน รัฐบาลในแต่ละยุคได้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดมาตลอด จนกระทั่งใน พ.ศ. 2501 คณะปฏิวัติภายใต้การนำของจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ออกประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 37 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2501 ให้เลิกการสูบฝิ่นทั่วราชอาณาจักรโดยมีการเผาทำลายฝิ่นและอุปกรณ์การสูบฝิ่น ที่ท้องสนามหลวงในคืนวันที่ 30 มิถุนายน 2502 หลังจากนั้นปี พ.ศ. 2504 รัฐบาลได้จัดตั้ง “คณะกรรมการปราบปรามยาเสพติดให้โทษ” ใช้ชื่อย่อว่า ปปส. สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีโดยมีอธิบดีกรมตำรวจเป็นประธาน และมีผู้แทนจากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ
ต่อ มาในสมัยนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรีรัฐบาลได้เล็งเห็นว่า การปราบปรามยาเสพติดไม่สามารถแก้ไขได้โดยการดำเนินการเฉพาะกรมตำรวจฝ่าย เดียว จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519 ต่อสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน และประกาศใช้เป็นกฎหมายเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2519
ตั้งแต่ นั้นเป็นต้นมาการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทยก็ได้ดำเนินไปอย่างมีแบบแผน และเป็นระบบที่ดีขึ้น พระราชบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือเรียกชื่อย่อว่า ป.ป.ส. โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ส. ขึ้นเป็นหน่วยงานกลางรับผิดชอบโดยตรง มีฐานะเป็นกรม กรมหนึ่งในสำนักนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันสำนักกระทรวงยุติธรรม ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพ ติดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ผล จากปัญหายาเสพติด ได้ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อมวลมนุษยชาติทั่วโลก เพื่อเน้นถึงความสำคัญของการต่อสู้กับปัญหาการใช้ยาในทางที่ผิด และการลักลอบค้ายาเสพติดและเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศทั่วโลกใน การต่อสู้กับปัญหายาเสพติด ที่ประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการใช้ยาในทางที่ผิด และการลักลอบใช้ยาเสพติด (International Conference on Drug Abuse and llicit Trafficking ICDAIT) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ระหว่าง วันที่ 17-26 มิถุนายน 2530 ที่ประชุมได้เสนอเป็นข้อมติต่อสมัชชาใหญ่สหประชาชาติขอให้กำหนดวันที่ 26มิถุนายนของทุกปีเป็นวันต่อต้านยาเสพติดซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบตาม ข้อเสนอดังกล่าวในการประชุมเมื่อ วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2530
ประเทศไทย สำนักงาน ป.ป.ส.ใน ฐานะหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดใน ประเทศมาโดยตลอด ได้นำมติเรื่องวันต่อต้านยาเสพติดขององค์การสหประชาชาติเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2531 ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กำหนดวันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531เป็นต้นมา
กิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติด
สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ และศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดกรุงเทพมหานคร จะจัดกิจกรรมรณรงค์พิเศษ "มหกรรมภาคีพลังแผ่นดิน เอาชนะยาเสพติด" ขึ้นโดยระดมพลังครั้งยิ่งใหญ่จากทุกภาคส่วนของสังคม และประชาชนทุกหมู่เหล่าในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ณ บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 26 มิถุนายน 2547 ตั้งแต่เวลา 06.30 - 14.00 น. โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี พิธีในช่วงเช้าเริ่มด้วยการใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง การกล่าวคำปฏิญาณตนและการแสดงเจตนารมณ์เป็น "พลังแผ่นดิน" ร่วมเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด และการแสดงผลงานของภาคีพลังแผ่นดินที่จะร่วมต่อสู้เอาชนะยาเสพติดอย่างต่อ เนื่องและเป็นไปอย่างยั่งยืน เช่นพลังเยาวชน พลังครอบครัว พลังชมรม To Be Number One พลังผู้ประสานพลังแผ่นดิน พลังลูกเสือชาวบ้าน พลังภาคเอกชนและธุรกิจเอกชน พลังชุมชน เป็นต้น
โดยในส่วนภูมิภาคจะมีการจัดงานและกิจกรรมรณรงค์พิเศษขึ้นในลักษณะเดียวกัน พร้อมกันทุกพื้นที่ จังหวัด อำเภอ/กิ่งอำเภอ ณ จุดนัดหมายบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด และที่ว่าการอำเภอ/กิ่งอำเภอทุกแห่ง
คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติด
คำ ขวัญวันต่อต้านยาเสพติดของไทย ประจำปี 2554 “สานต่อพระราชปณิธาน หยุดยั้งยาเสพติด หยุดหายนะแผ่นดิน”
“...ยาเสพติดนี่มันก่อให้เกิดความเดือดร้อนหลายอย่างโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ทั้งราชการตำรวจ โดยโรงพยาบาล โดยคน เอกชนต่าง ๆ เดือดร้อนหมด และสิ้นเปลือง คนทั่วประเทศก็สิ้นเปลือง แทนที่จะมีเงินทอง มีทุนมาสร้างบ้านเมืองให้สบาย ให้เจริญ มัวแต่ต้องมาปราบปรามยาเสพติด มัวแต่ต้องเสียเงิน ค่าดูแลรักษาทั้งผู้เสพยา ผู้เป็นคนเดือดร้อน อย่างนี้ก็เสียทั้งเงินและเสียทั้งชื่อเสียง...”
พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันที่ 4 ธันวาคม 2545
คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติดสากลในปี พ.ศ. 2550 ถึงปี พ.ศ. 2552 คือ
“Do drugs control your life? Your life. Your community. No place for drugs”
ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า
“ยาเสพติดครอบงำชีวิตของคุณอยู่หรือเปล่า ชีวิตของคุณ
คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติดของไทย
คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติดประจำปี 2553
"ไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติด"
คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติดประจำปี 2552
"ยาเสพติดครอบงำชีวิตของคุณอยู่หรือเปล่า ชีวิตของคุณ"
คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติดประจำปี 2551
"รวมพลังประชาไทย พ้นภัยยาเสพติด"
คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติดประจำปี 2550
"รวมพลังไทย ขจัดภัยยาเสพติด ร่วมเทิดไท้องค์ราชัน"
คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติดประจำปี 2549
“ ๖๐ ปี ทรงครองราชย์ รวมพลังไทยทั้งชาติ ขจัดยาเสพติด ”
คำขวัญวันต่อต้านยาเสพติดประจำปี 2548
"พลังไทย ต้านภัยยาเสพติด"
ยะลา / พัทลุง / สงขลา / ปัตตานี / ตรัง / สตูล / นราธิวาส |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น